เชื่อได้เลยว่าคนที่สายตาสั้นหรือเอียงคงคิดหนักกันใช่หรือไม่ว่าตนเองอยากจะทำเลสิค เพราะว่าการทำเลสิคช่วยในการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนที่สงสัยว่าการทำเลสิกแท้จริงนั้นแพงหรือไม่ อย่างไร และหลังจากทำเลสิคจะมีการดูแลอย่างไรบ้าง โปรโมชั่นของการทำมีมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ดีวันนี้เรามีข้อมูลมาฝากกันแล้ว
1.คนที่ทำเลสิกได้มีใครบ้าง
สำหรับใครที่อายุมากเกิน 18 ปี และสายตามีค่าคงที่อยู่เกินหนึ่งปี หรือบวกลบไม่เกิน 50สามารถทำได้ และที่สำคัญจะต้องไม่ตั้งท้องอยู่หรือว่าให้นมลูกอยู่ใครที่มีโรคประจำตัวเช่นรูมาตอยด์ เอสแอลอี หรือเบาหวาน ก็จะต้องเลี่ยงไปจะดีกว่า นอกจากนี้โรคสายตาบางโรคแม้เป็นก็สามารถทำได้เช่นกัน
2.ค่าสายตาแบบใดที่สามารถทำเลสิคได้
หลายคนสงสัยว่าค่าสายตาแบบใดที่สามารถทำเลสิกได้ ต้องบอกเลยว่าการทำเลสิคนั้น เมื่อเราได้เปรียบเทียบกับความหนาของกระจกตา ก็จะรู้ว่าต้องทำหรือไม่ อย่างไร ใครที่สงสัยว่าค่าความหนาของกระจกตานั้นจะรู้ได้อย่างไรบ้าง ต้องบอกเลยว่ารู้ได้จากการวินิจฉัยและตรวจโดยเครื่องมือเฉพาะ หากว่าลองคิดแบบคร่าวๆ เราจะรู้เลยว่า การที่มีสายตาสั้นหรือเอียง เมื่อบวกกันแล้วไม่เกินแปดร้อยก็ทำได้ แต่หากว่าใครเกินก็อย่าเสียใจ เพราะว่าไม่แน่นอน
3.ใช้เลเซอร์คืออะไร
การใช้เลเซอร์เป็นสิ่งที่หลายๆ คนสงสัยกันอยู่ ขอตอบเลยว่าการใช้เลเซอร์นั้น เป็นความทันสมัยจากเทคโนโลยีโดยเฉพาะ เช่นการทำ ReLEx ซึ่งจะใช้เลเซอร์แยกเนื้อที่กระจกตาของคนไข้ ไม่เปิดฝา แผลก็เล็ก ตาไม่แพ้ง กระจายแสงได้ดี ราคาไม่แพงเกินไป หรือหากเป็นฟีเมโต้ก็คือการทำเลสิกไม่มีใบมีดผ่าตัด และมีการเปิดฝากระจกตา เจียระไนค่าความโค้งสายตา ข้อดีก็คือการเปิดฝามีความแม่นยำที่สูงมาก และปลอดภัยมากเช่นกัน ราคาราวหนึ่งแสนบาททีเดียว
4.การเตรียมตัวหรือพักฟื้น
สำหรับใครที่อยากเตรียมลางาน แนะนำเลยว่าให้ถอดคอนแทกเลนส์เสียก่อน โดยถอดติดต่อกัน 7 วันจะดีที่สุด และสามารถทำได้ทั้งเช้าและบ่าย นอกจากนี้จะมีเวลาในการพักประมาณ 3 วันหลังผ่าตัด และห้ามให้น้ำเข้าตา 7 วัน ไม่ควรว่ายน้ำหรือทำซาวนาจนกว่าจะครบ1 เดือน และต้องไปพบแพทย์ตามนัดอีกด้วย
และนี่ก็คือเรื่องที่ต้องรู้ก่อนจะไปทำเลสิค หากว่าใครอยากให้สายตาตนเองดีกว่านี้ ลองทำตามคำแนะนำดังกล่าวข้างต้น รับรองได้เลยว่าไม่มีการผิดหวังอย่างแน่นอน โลกทัศน์ใหม่จะสดใสมากไปกว่าเดิมอย่างแน่นอนที่สุด